แล้วพัสดุ ราคาเท่าไหร่กันละ

      เวลาเราไปส่งของ ส่วนใหญ่เราจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าจะกลัวการส่งแบบพัสดุธรรมดากันเพราะคิดว่าพัสดุเช็คไม่ได้ ไม่มี Tracking number ดูไม่น่าเชื่อถือ

      แต่เราจะบอกว่า การส่งแบบพัสดุธรรมดานั้นมีข้อดีมากๆเลยนะคะ ข้อดีอย่างแรกเลยคือ เราสามารถส่งของที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะได้ในราคาที่ถูกสุดๆ 

      ถึงแม้พัสดุจะไม่สามารถเช็คได้ทางอินเตอร์เน็ต แต่เวลาปลายทางรับของ ก็ต้องมีคนเซ็นต์รับนะจ๊ะ ไม่ได้ส่งแบบไปวางหน้าบ้านลูกค้าแล้วของหายไปเลยอะไรแบบนี้ 5555 เพียงแต่จะยุ่งยากนิดนึงตรงที่ทางผู้ฝากส่ง(ในกรณีที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า) อาจจะต้องคอยโทรสอบถามกับทางไปรษณีย์ปลายทางนิดนึงว่าทางผู้รับได้รับของแล้วหรือยัง  แต่ขอบอกเลยนะจ๊ะว่า หากเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นมา ทางไปรษณีย์รับประกันวงเงินของพัสดุมากกว่าลงทะเบียนนะจ๊ะ

     ซึ่งจากที่เราสังเกตดู ส่วนใหญ่ บริการพัสดุธรรมดานี้ คนส่วนใหญ่จะใช้ส่งก็ต่อเมื่อของนั้นน้ำหนักเกิน2กิโลกรัมขึ้นไป หรือต้องการส่งหนังสือทีละหลายๆเล่ม ส่งเสื้อผ้ากลับบ้าน หรือส่งของใช้จิปาถะทีละมากๆกลับต่างจังหวัด เพราะการที่ส่งให้กับคนรู้จัก ถึงแม้จะไม่มีเลข Tracking ก็สามารถโทรสอบถามกับผู้รับได้โดยตรงเลยว่าได้รับของหรือยัง

เรามาดูราคาในการฝากส่งพัสดุธรรมดากันดีกว่าค่ะ ตามตารางด้านล่างนี้เลย

         หากสมมติ ของๆเราอยู่ที่น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม  เรายังสามารถฝากส่งเป็นลงทะเบียนได้อยู่ในราคา 58 บาท(13บาท(ราคาลงทะเบียน) + 45บาท(ราคาตามเรทจดหมาย)) แต่หากเราต้องการส่งเป็นแบบพัสดุละ จะราคากี่บาทกันน้อออ

จากตารางนะคะ ที่เขาบอกว่า ส่วนเกิน 1000กรัม ให้คิดเป็น 1000 กรัม

นั่นหมายความว่า ถ้าของน้ำหนัก 1.5กิโลกรัม จะเท่ากับ

20บาท(เรทราคากิโลแรก) + 15บาท(ส่วนที่เกิน1000กรัม)

ดังนั้น ของที่หนัก 1.5 กิโลกรัม = 35บาท นั่นเอง

แล้วถ้าของน้ำหนัก 1.2กิโลกรัมละ???

ติ๊กต่อกๆๆๆๆ

.

.

.

ก็ยังราคา 35 บาทอยู่ดีนะจ๊ะ :)

เพราะงั้น ถ้าจะส่งให้คุ้มกับน้ำหนัก ต้องหาอะไรใส่เข้าไปให้ปริ่มๆเกือบสองกิโลนะจ๊ะ 55555

คำถามในบทถัดไป...

ส่งEMS กี่วัน ถึง

ส่งEMS ใช้เวลากี่วัน

ส่งลงทะเบียน กี่วันถึง

แล้วพัสดุละ กี่วันถึง

เดี๋ยวบทหน้า รับรองว่าเราจะมาแถลงไขกันแบบหมดเปลือกกันไปเลยยยย ^__^