(4)พกง อะไรยังไงเอ่ย : ของถึงปลายทาง แต่...ทำไมลูกค้ารับไม่ได้อ้ะ???

ก่อนส่งแบบพกง นั้น สิ่งแรกที่ทางผู้ส่งของต้องแจ้งลูกค้าเวลาใช้บริการฝากส่งแบบพกง นั่นก็คือ

"ต้องเตรียมบัตรประชาชนไปรับของด้วยนะคะ"

หรือหากให้คนอื่นไปรับแทน จะต้องมีสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของตามจ่าหน้าพัสดุ และคนรับแทนพร้อมกับต้องให้ผู้มอบอำนาจเซ็นต์มอบอำนาจมาด้วยนะ

เป็นสิ่งสำคัญเลยที่เราต้องทำการตกลงและอธิบายให้กับลูกค้าเข้าใจก่อน มิฉะนั้น อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็เป็นได้...

ลูกค้า : พี่คะะะ ทำไมไปรษณีย์ไม่ยอมให้ของหนูอ่ะคะ

คนขาย : เอ่อ...หนูอยู่ที่ไปรษณีย์แล้วใช่ไหมเอ่ย

ลูกค้า : อยู่ต่อหน้าพนักงานไปรษณีย์เลยค่ะ นี่พี่จะโกงหนูใช่ป่ะ

คนขาย : เอ่อ....ใจเย็นๆนะคะคุณน้อง หนูมารับของด้วยตัวเองเลยใช่ไหมเอ่ย

ลูกค้า : ป่าวอะ ฝากน้องไปเอาของ

คนขาย : *โครม*(เสียงล้มหัวฟาดพื้น)

ลูกค้า : แล้วไงเนี่ยพี่ อะไรยังไง อธิบายมาด่วน

คนขาย : หนูได้ฝากบัตรประชาชนหนูให้น้องไปหรือเปล่าเอ่ย หรือพวกสำเนาใบมอบอำนาจอะไรแบบนี้ 

ลูกค้า : เปล่าอะค่ะพี่ ต้องเอามาด้วยเหรอ แหมพี่ น้องหนูกับหนูหน้าเหมือนกันขนาดนี้ DNAบนหน้ามันฟ้องอยู่นะ พี่จะโกงหนูก็บอกมาตรงๆเหอะ นี่ยังไงเนี่ย เสียเวลานะเนี่ย !@#$#@^^&

คนขาย : เอ่อ.....



เพราะเมื่อทางไปรษณีย์โทรแจ้งให้ทางลูกค้าของเราไปรับของแล้ว เมื่อทางลูกค้าไปถึงที่ทำการไปรษณีย์แล้ว  ทางพนักงานไปรษณีย์จะทำการขอหลักฐาน(เพราะฉะนั้นเวลาจ่าหน้าชื่อผู้รับหน้ากล่องพัสดุ พยายามให้ตรงกับบัตรประชาชนนะคะ) เมื่อลูกค้าได้รับของแล้วพนักงานไปรษณีย์ก็จะออกใบธนาณัติแทนเงินสดเพื่อส่งไปยังผู้ขายเพื่อให้ผู้ขายนำไปขึ้นเงิน  ส่วนผู้ขายก็มั่นใจได้เลยว่า ลูกค้าไม่สามารถที่จะเอาของไปโดยไม่จ่ายเงินได้เลย เพราะหากลูกค้าไม่นำบัตรประชน + เขียนข้อมูลตามบัตรซึ่งเป็นหลักฐานในการรับพัสดุ พนักงานก็ไม่สามารถที่จะให้ของกับลูกค้าได้ค่ะ


เอาละ บทต่อไปเป็นซีรียส์สุดท้ายของพกง แล้วค่ะ
นั่นก็คือ วิธีการขึ้นเงินธนาณัติที่ไปรษณีย์นั่นเองงง

คลิก