EMS Post Service for E commerce

เหล่าพ่อค้าแม่ค้าเคยเป็นกันไหมคะ หลายครั้งที่เราเคยไปส่งของ แล้วพอได้ใบเสร็จมาก็จะพิมพ์เลขแทรคกิ้งเก็บไว้ในแอพพลิเคชั่นที่ไว้เช็คสถานะของไปรษณีย์ แต่ก็ต้องตกใจแทบหงายหลัง เมื่อเช็คแล้วสถานะกลับขึ้นว่าไม่มีข้อมูล ซึ่งหลายๆครั้งลูกค้าก็อาจจะเข้าใจผิด  หาว่าเราโกงบ้าง ไม่ส่งของบ้าง ลูกค้า : เอ้าา ก็พี่จะไม่ให้หนูคิดได้ไงอ่ะ ก็มันเช็คบนเว็บ/แอพแล้วมันไม่มีอ้ะ นี่พี่จะโกงหนูใช่ป้ะ ตรงนี้ อยากจะให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็นๆก่อนนะคะ พ่อค้าแม่ค้าก็อย่าเพิ่งเดือดไป 5555 คือด้วยความที่ระบบงานไปรษณีย์ในปัจจุบันนั้น...งานเยอะมากกกก คือเรียกได้ว่าล้นค่ะ โดยเฉพาะในกรุงเทพ

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากห่างหายกันไปนาน 5555 พอดีเราไปเปิดเจอข่าวนานมากแล้วค่ะ เกี่ยวกับเลข EMS ที่เราเอาไว้เช็คสถานะกัน คือถึงแม้ข่าวจะออกไปนานแล้ว แต่ ณ ปัจจุบันก็ยังมีคนแอบเอามาขายกันอยู่ เล่มละ 100 บาท 200 บาทบ้าง

มาถึงคำถามระทึกใจ ค่าบริการของ LOGISPOST มีราคาเท่าไหร่บ้าง  ตอบ  มาถึงข้อนี้นี่ ต้องขอบอกเลยค่ะว่าตอบยากจริงๆ 5555 เพราะวิธีการคิดคำนวณค่อนข้างเยอะ จริงๆตอนแรกเรากะจะขอถ่ายอัตราค่าบริการจากพี่ๆพนักงาน แต่มันเยอะมากกกกกกค่ะ ก็เลยพับโครงการไป เพราะค่าฝากส่งโลจิสโพสต์นั้นจะคิดต่างจาก EMS ตรงที่มันจะมีการคำนวณ 2 แบบค่ะ คือ 1. คิดตามสิ่งของสำเร็จรูป + จังหวัดปลายทาง     ก็คือ มันจะมีสิ่งของที่เป็นราคาตายตัวอยู่แล้วค่ะ เช่นพวกตู้เย็น จักรยาน คอมพิวเตอร์ชุด ทีวี ฯลฯ     แล้วก็มาดูว่าส่งจากต้นทางที่ไหน ไปปลายทางที่ใด ก็จะมีเรตราคาบอกค่ะ

แล้วส่งแบบ โลจิสโพสต์ (Logispost) มันต่างกับส่งแบบปกติยังไงอะ ตอบ  การส่งแบบ LOGISPOST นั้น ของเราจะถูกแยกออกไปค่ะ คือปกติเวลาเราส่งของพวก EMS ลงทะเบียน ทางไปรษณีย์จะนำของของพวกเราทั้งหมดใส่ไว้ในถุงผ้า ซึ่งเรียกกันว่า ถุงเมล์ เพราะงั้นทุกครั้งที่เวลาเราส่งของนั้น ไปรษณีย์จะสอบถามก่อนทุกครั้งว่าของสามารถแตกหัก หรือเป็นของเหลวมั้ย เพราะเขากลัวว่าเวลาใส่ถุงเมล์แล้วมีการกดทับของจากชิ้นอื่นที่ใส่ลงมา หรือเวลาลากถุงแล้ว ของจะสามารถแตกหักได้ค่ะ แต่ถ้าส่งแบบ Logispost นี่คือของไปแบบส่วนตัวเลยค่ะ ไม่ต้องรวมในถุงเมล์(เพราะมันรวมไม่ด๊ายยย)

สวัสดีค่า ห่างหายจากการอัพบล็อคไปนานนมกันเลยทีเดียวค่ะ  วันนี้มีคำถามหลังไมค์กันมา + ความสงสัยของตัวเองด้วยค่ะ พอดีว่ามีอยู่ช่วงนึง ได้มีโอกาสก้าวเข้าสู่เส้นทางการขายของใหญ่ 55555 อ๊ะๆๆ เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งคิดกันไปไกล เพราะของใหญ่ที่ว่านี้ คือจักรยานนั่นเองค่ะ เป็นลักษณะจักรยานพับได้ แต่โครงเป็นเหล็กทั้งคันค่ะ อื้อหือ แบกกันลิ้นห้อยค่ะงานนี้ แต่ในความลำบากก็ยังมีความโชคดีอยู่ค่ะ เพราะพอนำไปส่งที่ไปรษณีย์ พี่ๆพนักงานไปรษณีย์ก็บริการจัดการตรวจเช็คสภาพ + หุ้มห่อให้เรียบร้อย ถึงมือผู้รับด้วยสภาพสมบูรณ์ค่ะ

           สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกๆคน เคยไหมคะ บางครั้งส่งของไปให้ลูกค้า แล้วพอมาเช็คสถานะใน แอปพลิเคชั่น หรือในเวปของไปรษณีย์แล้วมันขึ้นสถานะว่ากำลังอยู่ที่ ศป.อยุธยาบ้าง ศป.เชียงใหม่บ้าง แล้วไอศป.เนี่ยมันคืออะไรกันนะ แล้วทำไมต้องไปผ่านที่นี่ก่อน ทำไมไม่นำส่งให้กับจังหวัดปลายทางไปเลย เนื่องจากปริมาณงานของไปรษณีย์เพิ่มขึ้นทุกวัน หากนำของแต่ละชิ้นไปที่จังหวัดแต่ละจังหวัดโดยตรง อาจจะทำให้เสียเวลาค่ะ เพราะฉะนั้น จะต้องมีศูนย์ไปรษณีย์ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น Hub ของจังหวัดแต่ละภาคค่ะ และเมื่อถึงHub แล้ว แต่ละไปรษณีย์ของแต่ละจังหวัดใกล้เคียงก็จะไปรับของมานำต่ายให้พวกเราต่อไปค่ะ ซึ่งวันนี้เราจะมาอธิบายให้ทุกๆคนฟังกันค่ะ ว่าจังหวัดไหน เข้าศูนย์ไหนกันบ้าง และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันเล๊ยย